๑. ปริยัติสัทธรรม คือคำสอนของพระพุทธองค์ที่พุทธศานิกชนควรจะศึกษาเล่าเรียน ได้แก่พระบาลี และอรรถกถา รวมเรียกว่า พระไตรปิฎก ซึ่งแบ่งเป็น ๓ หมวด คือ
(๑) พระวินัยปิฎก คือประมวลกฎระเบียบข้อบังคับ เกี่ยวกับศีลหรือสิกขาบท ตลอดจนพิธีกรรมและธรรมเนียมของสงฆ์ที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้ สำหรับภิกษุ และภิกษุณี อันเป็น กฎระเบียบ ที่พระภิกษุ และพระภิกษุณี จะต้องปฏิบัติ
(๒) พระสุตตันตปิฎก หรื่อเรียกว่าสั้นๆว่า พระสูตร ได้แก่พระพุทธพจน์ที่เป็นบุคลาธิษฐาน คือเป็นเรื่องราวที่ประกอบไปด้วย เนื้อหาสาระ ที่เกี่ยวกับบุคคล เหตุการณ์ สถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงยังที่ต่างๆ ให้เหมาะกับบุคคล สถานที่ และเหตุการณ์ ตลอดจนบทประพันธ์ชาดกหรือ เรื่องราวชีวประวัติของพระพุทธเจ้า เป็นต้น
(๓) พระอภิธรรมปิฎก คือธรรมอันยิ่ง เป็นประมวลคำสอนที่เป็นธรรมาธิษฐาน ป็นหลักวิชาการล้วนๆ ว่าด้วยเรื่องของสภาวธรรม เรียกอีกนัยหนึ่งว่า ปรมัตธรรม คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน หรือเรื่องอริยสัจ ๔ ประการ ปฏิจจสมุปบาท ๑๒ ปัจจัย ๒๔ โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคมีองค์ ๘ เป็นต้น พระธรรมในหมวดพระอภิธรรมจึงไม่มีสัตว์บุคคล สถานที่ เหตุการณ์ หรืิอเรื่องราวที่เป็นสมมุติบัญญัติประกอบเลย
พระไตรปิฎกมีเนื้อหารวมทั้งสิ้น ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ แบ่งเป็น พระวินัยปิฎก ๒๑,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ พระสุตตันตปิฎก ๒๑,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ และพระอภิธรรมปิฎก ๔๒,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ รวมเป็น ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ซึ่งหาก จะศึกษาค้นคว้าเล่าเรียนพระไตรปิฎกให้แจ่มแจ้งถ้วนทั่ว ก็คงต้องอุทิศเวลาให้ทั้งชีวิต หรือมิฉะนั้นก็ค่อยๆ ศึกษาไปและเวียนว่ายไปจนกระทั่งหาที่สุดมิได้ การเริ่มต้นศึกษาและสะสมความรู้ความเข้าใจไปในขณะนี้เท่าที่ทำได้ จึงย่อมดีกว่าที่จะทอดทิ้งไม่สนใจศึกษาเส ียเลย และเพียงแค่ความคิดจะศึกษาพระธรรมเกิดขึ้นในใจครั้งหนึ่งแล้วระลึกรู้ ก็นับได้ว่าจิตเป็นกุศลแล้ว
เมื่อพระไตรปิฎกมีถึง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ แล้วเราจะเลือกศึกษาอย่างไร
พระพุทธพจน์ข้างต้นดังว่า ".....ธรรมวินัยอันใดที่เราได้แสดงแล้วบัญญัติแล้ว ขอให้ธรรมวินัยอันนั้นจงเป็นศาสดาของพวกเธอ...." จะเห็นว่าทรงกล่าวถึงทั้ง ธรรม และวินัย ธรรมนั้นหมายถึงพระสูตร และพระอภิธรรม วินัยก็คือหมวดแรกในพระไตรปิฎก คือ พระวินัยปิฎก
สำหรับพระวินัยนนั้น แม้ทรงบัญญัติไว้เพื่อเป็นระเบียบข้อบังคับสำหรับพระภิกษุสงฆ์ แต่พุทธศาสนิกฝ่ายคฤหัสถ์ก็ควรรู้จักพระวินัยบางข้อของพระภิกษุสงฆ์ไว้บ้าง เพื่อที่จะช่วยให้พระภิกษุสงฆ์จะรักษาตัวให้บริสุทธิ์ มิให้มีโทษทางพระวินัย ทั้งนี้ หากฆราวาสไม่ทราบพระวินัยของพระเอาเสียเลย ก็อาจจะปฏิบิติต่อพระภิกษุสงฆ์อย่างไม่ถูกต้อง ทำให้ท่านต้องอาบัติ และฆราวาสเองก็ได้บุญน้อย หรืออาจถึงขั้นเป็นบาปโดยไม่ทราบตัว
ด้วยเหตุนี้ ชาวพุทธจึงควรจะได้ศึกษาพระวินัยไว้บ้าง ข้าพเจ้าขอแนะนำตัอย่างหนังสือ ๒ เล่ม ที่ท่านผู้เขียนได้รวบรวมพระวินัยบางข้อ ที่คฤหัสถ์ทั้งบุรุษและสตรีควรทราบมาแสดงพอเป็นแนวทางแห่งการศึกษาและปฏิบัติ คือ วินัยของพระภิกษุสงฆ์ ที่ประชาชนควรทราบ และ วินัยพระน่ารู้คู่มือโยม
Comments
สาธุๆๆๆ อนุโมทามิ
อนุโมทนา สาธุค่ะ
จะเข้ามาอ่านประจำ เพราะมีเรื่องที่ต้องศึกษาอีกมาก
สาธุ
RSS feed for comments to this post