ปฏิรูปให้คนเข้าถึงศาสนา VS ปฏิรูปประเทศไทย

ปฏิรูปให้คนเข้าถึงศาสนา VS ปฏิรูปประเทศไทย

"สนับสนุนให้ปฏิรูปคนให้มีศีล มีธรรมในใจ ก่อนที่จะปฏิรูปการเมือง จึงจะเป็นการปฏิรูปเมืองไทยอย่างยั่งยืน".....มีสิ่งหนึ่งที่อยู่ในใจมานาน แต่ดูแล้วว่าสังคมยังไม่พร้อมที่จะยอมรับ แล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่รอคอย รอวันนี้ วันที่คนไทย "พร้อมที่จะกล้าออกมารับความจริงว่าบ้านนี้เมืองนี้มีปัญหา" รอวันที่ไทยเฉยจะออกมาเสียที วันที่คนไทยกล้าที่จะแสดงเจตนารมรณ์ออกมาเพื่อถามหาความถูกต้อง ความสุจริต ซื่อตรง เมื่อคนในสังคมพร้อมใจกันแสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่เอาคนโกง รังเกียจคอรับชั่น เป็นต้น   

 

แต่ไม่ใช่หรอกค่ะ ที่จะกล่าวนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองโดยตรง  เพียงต้องการชี้ไปที่สภาพของการเผยแผ่และการศึกษาไปจนถึงการปฏิบัติในทางพระพุทธศาสนา....ที่ผ่านมา ตย. ดูแค่ในวงแคบๆ คือใน FB นี้เป็นต้น เราจะพบว่ามีการโพสธรรมะ ข้อคิดดีๆ พร้อมภาพประกอบงดงามมากมายทุกวันเป็นจำนวนมาก เราช่วยกันโพสสิ่งที่ดีๆ ให้แก่กันและกัน เราเน้นการรักษาและการพัฒนจิตใจให้เป็นพุทธะ ให้เป็นผู้รู้  ผุ้ตื่น ผู้เบิกบาน เจริญสติอยู่กับปัจจุบัน  มองโลกในแง่ดี มองข้ามข้อเสียของผู้อื่น  เราหยิบยื่นสิ่งที่ดีและเลือกรับแต่สิ่งที่ดีๆ...... ประมาณว่าเสพแต่กุศล เพื่อรักษาใจให้เป็นกุศลเสมอ....

 

แต่ในความสวยงามเบ่งบานของธรรมะที่เราแชร์กัน...เราก็ต้องยอมรับว่า.....กระแสโลกปัจจบันที่ดูเหมือนว่าศาสนาพุทธกำลังอยู่ในยุคที่รุ่งเรืองและเข้าสู่ใจคนได้มากขึ้นนั้น พุทธพาณิชย์ก็ดี การฉ้อโกง ทุจริต การแสวงหาประโยชน์จากวัดวาอารามและครูอาจาย์ก็ดี มิจฉาชีพ และพวกลักเพศที่ปลอมอยู่ในคราบผ้าเหลืองก็มีอยู่ และมีอยู่มากด้วย มากจนเรามักได้ยินได้ฟังเรื่องที่บั่นทอนศรัทธาอยู่เนืองๆ แต่เรื่องเหล่านี้เรามักไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เพราะ…..มันเป็นเรื่องนอกตัว.... ไม่เกี่ยวกับเรา.....เราไม่ปล่อยจิตไปเกลือกกลั้วกับอกุศล เราต้องเป็นคนดีที่พระพุทธเจ้าสอนไว้คือ มีสติ.... มีสติ.... พิจารณาแต่เรื่องตนไม่ยุ่งเรื่องภายนอก.....

 

คือเราควรเป็น "พุทธเฉย"  นอกจากนี้ผู้ใดที่ออกมาเปิดเผยตีแผ่ข้อมูลข่าวสารเรื่องไม่ดีไม่งามที่เกี่ยวเนื่องด้วยบุคคล หรือการกระทำในทางพระพุทธศาสนาที่ไม่ดี ไม่สมควร อาจถูกมองเป็นคนไม่ดี ว่านำเรื่องไม่สมควรมาแสดง...แม้เราประสพกับเรื่องไม่ดี การกระทำทีไม่ถูกต้อง เราก็ให้อภัย เพราะเราเป็นชาวพทุธ เรามองข้ามความผิด ความไม่ดีของคนอื่นได้ไม่ยาก...และเราก็ถูกสอนให้มองโลก มองคนอื่นในแง่ดี สิ่งใดไม่ดีก็ให้วางเสียไม่ต้องเก็บมาคิดให้รกรุงใจ.......

 

อย่าว่าแต่ชาวพุทธเลย......แม้แต่หน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลพระพุทธศาสนาก็ยังไม่สนใจปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น  นอกจากไม่สนใจแล้วยังละเลยไม่ใส่ใจกลับช่วยเหลือปิดบังสิ่งที่ไม่ดีไม่งามเสียด้วยอยู่เนืองๆ เพราะเหตุด้วยว่า....หากเปิดเผยไป ศรัทธาญาติโยมจะตกลงไป....คนไทยจะไม่ทำบุญ ไม่ใส่บาตร...เป็นต้น....เราจึงได้เห็นตัวอย่างว่า.... สมีคำร่ำรวยมากกกกกกกก.........มิตซูโอ๊ะ ก็วางแผนจัดคอร์สสอนธรรมะที่ญี่ปุ่นเป็นช่องทางหาเงินไว้เรียบร้อยก่อนสึก...... มีการก่อสร้างถารวรวัตถุใหญ่โตอลังการเกินความจำเป็นต่อการประกอบศาสนกิจและการปฏิบัติธรรม คนไทยใจเป็คนใจบุญ และชอบทำบุญ...ก็สนับสนุน... ยินดีพอใจที่จะสละทรัพย์ให้  แต่สร้างไปแล้วใช้ประโยชน์คุ้มไหมในเชิญปลูกสร้างปัญญานั้นเป็นเรื่องที่มักไม่ทบทวนกัน....แถมยังเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเข้ามาวุ่่นวายหาผลประโยชน์ในวัดวาอาราม   นี้ยังไม่รวมบรรดาเครื่องรางของขลังที่ทำขายกันเกลื่อนกลาด  พิธีกรรมเซ่นไหว้ต่างๆ  การทำบุญแแลกของที่ระลึกหรือทำบุญระบบผ่อนส่ง ไปจนถึงการที่ให้มีการบรรพชา และอุปสมบท...... ได้ง่ายเกินไป.... และไม่ได้ตรวจสอบให้ดีว่าเป็นบุคคลที่เป็นลักเพศหรือเปล่า จึงทำให้เกิดเรื่องราวที่ไม่งามอยู่เนืองๆ  

 

เราก็ยินดีที่จะรักษาจิตไว้โดยการเป็น "พุทธเฉย" เราคิดว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องของเรา และเราคนเดียวจะไปแก้ไขอะไรได้....ก็เหมือนกับ "ไทยเฉย" นั้นแหละ แต่ตอนนี้คนไทยตื่นแล้ว  ส่วน "พทุธเฉย" ยังไม่ตื่น....และถ้าพิจารณากันให้ดี ปัญหาทีกล่าวมาทั้งหมดข้างต้นมีเหตุจากการที่ไม่เชื่อคำสอนพระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งสิ้น 

 

ตอนนี้คนไทยตื่นแล้ว คนไทยจำนวนมากเริ่มเปิดใจรับข้อมูลอันเป็นความจริงต่างๆ ได้ทั้งที่ดีและไม่ดี เราตั้งใจฟังปัญหา เราคิดพิจารณาตาม แล้วเราก็ช่วยกันเผยแผ่ความจริง เพื่อต่อต้านความชั่ว เพื่อปฏิรูปประเทศอันเป็นที่รักของเราให้หลุดพ้นจากวงจรความชั่วร้ายของนักการเมืองที่ทำร้ายและทำลายประเทศชาติเรามานาน - โดยเราเองนั้นแหละที่ปล่อยให้พวกเขามีโอกาสทำเช่นนั้น เพราะเรามัวแต่เฉยและยอมรับที่จะจำยอมอยู่กับความไม่ถูกต้องเหล่านั้นเอง

 

ศาสนาพทุธก็เช่นกัน ปัญหามีอยู่ ผู้ที่ฉกฉวยผลประโยชน์จากศาสานานี้มีอยู่ เราจึงสมควรที่จะรับฟังได้ทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีที่เกิดขึ้นในสังคมพุทธนี้ เป็นหน้าที่เราชาวพทุธที่จะช่วยส่งเสริมการศึกษาและการปฏิบัติธรรม และบำรุงพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตลอดจนรักษาศาสนสมบัติไว้ เหล่านี้คนไทยทำกันอยู่แล้วเห็นอยู่ทั่วไปเป็นธรรมดา และ ทำได้ดีด้วย  แต่คนที่จะออกมาแก้ไข หรือชี้ทางที่สมควรแก้ไข ให้ข้อมูลเพื่อปรับปรุง ป้องกัน มิให้ศาสนาพุทธถูกน้ำไปใช้ในทางท่ี่ผิดจากกิจทั้ง ๓ คือ ปริยัติ ปฏิบิติ และปฏิเวธ นั้น….หายาก...

 

แต่รอดูสักพักหนึ่ง....อาจเหมือนการเมืองขณะนี้ก็ได้ ที่บางคนบอกว่าเป็นเพียง "กระแส"….เมื่อกระแสสังคมถามหาคุณธรรมมากขึ้นอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้  ก็อาจจะมี "กระแส" ในหมู่ชาวพุทธบ้างก็อาจเป็นได้....ที่จะผลักดันให้คนชั่วที่หากินและแสวงหาอำนาจในพทุธศาสนาไม่มีที่ยืนในร่มโพธิสมภารนี้ก็เป็นได้....แต่กระแสก็มีทั้งผลดีและไม่ดี ส่วนที่ไม่ดีคือก็อาจมีคนหาประโยชน์ส่วนตนจากกระแสนั้นๆ ได้เช่นกัน......

 

ข้าพเจ้าเขียนบทความในวันนี้ อาจจะไม่เหมาะสมกับสถาณการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ เพราะดวงใจคนไทยกำลังจรดจ่ออยู่ที่การเมือง ไม่ใช่ศาสานา แต่ดังที่ได้กล่าวไว้ในตอนต้นว่า....ข้าพเจ้ารอวันนี้...วันที่คนไทยพร้อมที่จะกล้าออกมารับความจริงว่าบ้านนี้เมืองนี้มีปัญหาที่เราต้องช่วยกันแก้ไขและเปิดใจรับข้อมูลเพื่อที่เราจะได้แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง วันนี้เราได้ยินได้เสพข้อมูลต่างๆ ตลอดจนการกระทำที่มิชอบมากมายที่เราไม่เคยทราบมาก่อน ทั้่งนี้เพราะเราอาจไม่เคยสนใจ หรืออาจเพราะคนที่จะออกมาเล่าให้เราฟังพิจารณาแล้วว่าขณะนี้เป็นเวลาท่ี่เหมาะสมที่จะเปิดเผยข้อมูลเหล่านั้น และที่สำคัญที่สุดคือ ก่อนหน้านี้ไม่นาน....สังคมไทยที่เคยมีผลโพลออกมาว่า คนไทย และเด็กไทยเห็นว่าการคอรับชั่นไม่ใช่ปัญหาหากตนได้ส่วนแบ่งด้วย แต่วันนี้กลับเป็นตรงข้าม เรากำลังต่อสู้กับคอรับชั่น เราสร้างบรรทัดฐานของสังคมใหม่โดยไม่คบค้ากับคนชั่ว  เราไม่ยอมรับการทุจริต คดโกง อีกต่อไป

 

ข้าพเจ้าจึงเกิดความหวังว่า เมื่อทิศทางของการปฏิรูปประเทศกำลังดำเนินไปในทางที่ถูกที่ควรเช่นนี้  อาจจะเป็นกาลอันสมควรที่เราจะได้พากันหันมาดูการปฏิรูปศาสนาพทุธกันบ้าง เพราะสถาบันทั้ง ๓ คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ นั้นเราต้องรักษาไว้ให้คงอยู่คู่ชาติไทย  และที่สุดแล้ว ข้าพเจ้ายังมองไม่เห็นทางใดเลย ที่จะพัฒนาชาติ พัฒนาคน พัฒนาการเมือง แม้แต่เศรษฐกิจ และสังคมได้ โดยปราศจากการพัฒนาคุณภาพ ศีล ธรรม และจริยธรรมของคนในสังคมไทยนี้ เราต้องยอมรับว่าปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นและเป็นอยู่ในขณะนี้มีกิเลสตัณหาของกลุ่มคนที่ไม่มีศีลไม่มีธรรมในหัวใจเป็นเหตุ  ตลอดไปจนถึงคนที่ไม่มีความมั่นคงในคุณความดี ไม่กล้ายืนหยัดที่จะต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง ยอมเป็นเครื่องมือของคนที่ไม่มีคุณธรรม 

นอกจากนี้ ขณะที่เราประกาศตนว่าเราต่อสู้กับการทุจริต ความชั่ว ความไม่ถูกต้องนานับประการ เราก็ต้องทบทวนตัวเราเองด้วยว่า ในสังคมที่เล็กลงไปจากระดับชาติ คือ ระดับครอบครัว ระดับองค์กร เป็นต้น …เราเอง หรือคนใกล้ตัวเรา มีการทุจริตบ้างไหม หรือเราปล่อยปละให้มีการทุจริตไหม เราจะมุ่งแก้ที่นักการเมื่องโดยไม่แก้ที่ตัวเราเอง หรือไม่แก้สังคมเล็กๆ ที่เราอยู่นั้นไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

 

สุดท้ายนี้เราต้องช่วยเหลือคนที่ถูกรังแกในสังคมอันเนื่องมาจากคนทุจริตไม่มีศีล ไม่ธรรม ด้วย เราต้องส่งเสริมให้เกิดความเป็นธรรมเสมอภาค และความยุติธรรมในส้งคม ไม่ให้คนที่มีอำนาจรังแกคนที่อ่อนแอกว่า

 

ข้าพเจ้าเคยเขียนไว้เมื่อกลางปีว่า " ในอนาคตหน้า FB เพจนี้อาจไม่เหมือนเดิม....."  นี้แหละที่ข้าพเจ้าหมายความถึง กล่าวคือ ข้าพเจ้าคิดว่าเพื่อนๆ ที่ติดตามอ่านหน้านี้ส่วนใหญ่เพราะสนใจธรรมะ แต่ในอนาคต จะพบว่าแนวทางการโพสข้อความในหน้านี้จะไม่เหมือนเดิมโดยจะเป็นเรื่องสิ่งต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นนี้ด้วย.......ซึ่งข้าพเจ้าคิดเอาเองว่า....เวลานี้ชาวพุทธส่วนหนึ่งคงจะพอรับได้แล้ว และเห็นว่าเรื่องดังกล่าวมีความสำคัญคือการช่วยกันรักษาพระธรรม พระวินัย และสืบทอดพระพทุธศาสนาต่อไปในอนาคต ควบคู่ไปกับการเผยแผ่ ปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ ซึ่งขณะนี้นับได้ว่ามีผู้ที่เผยแผ่ในแนวนี้มากอยู่แล้ว

 

วิรังรอง

๒๒ พย. ๒๕๕๖

https://www.facebook.com/notes/วิรังรอง-ทัพพะรังสี/ปฏิรูปศาสนา-vs-ปฏิรูปประเทศไทย/10153543563855228

Comments   

+1 # ถ้าคนปฏิบัติตามศาสนา บ้านเมืองก็ไม่มีปัญหาเช่นนี้น้าหนอม 2014-03-27 04:46
ถ้าคนปฏิบัติตามศาสนา บ้านเมืองก็ไม่มีปัญหาเช่นนี้
ในยามนี้ขอแค่มีศีล ๕ ก็เจริญรุ่งเรืองได แก้ทุกข์เบื้องต้นได้ค่ะ
Reply | Reply with quote | Quote

Add comment


Security code
Refresh

Users
3943
Articles
271
Articles View Hits
3512913