เริ่มเขียนบทความนี้ เพื่อขยายข้อความที่เคย comment ไว้ใน Facebook.com เรื่อง "โลก" แต่เขียนไปเขียนมา จบลงด้วยเรื่องการปฏิบัติค่ะ

ก็นี่แหละ หัวใจของศาสนาพุทธคือการปฏิบัติ ไม่ว่าจะวนไปเวียนมาอย่างไร ก็มักมาลงเอยที่การปฏิบัตินะคะ

เมื่อพระพุทธองค์กล่าวถึง โลก ท่านหมายความถึง

๑. โอกาสโลก หมายถึง โลกประกอบด้วยธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ และอากาศ

๒. สังขารโลก แบ่งเป็นสังขารที่มีอุปาทานเข้าไปยึด เรียกว่าอุปาทินกสังขาร ที่เราปฏิบัติธรรมกันก็เพื่อขัดเกลากิเลสตัณหา มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น ให้เบาบางลงจนหมดสิ้นไป เรียกได้ว่าเป็นการปฏิบัติเพื่อลดละความยึดมั่นถือมั่นในสังขาร

สังขารอีกอย่างหนึ่งเรียกว่า อนุปาทินกสังขาร แปลว่า สังขารซึ่งไม่มีอุปาทานเข้าไปยึด หมายถึงผู้ที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ด้วยว่าพระอรหันต์มองโลกด้วยความว่างเปล่าไม่ยึดมั่นถือมั่นในความปรุงแต่ง ในสังขาร นี้หมายความว่าพระอรหันต์ท่านก็ยังมีสังขารคือร่างกายและจิตใจอยู่ แต่อุปาทาน คือความยึดมั่นถือมมั่นในสังขาร อันเป็นปัจจัยให้เกิดปฏิสนธิวิญญาณที่จะทำให้เวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏนั้นท่านไม่มี

๓. สัตว์โลก ในที่นี้ไม่ได้หมายความถึงนายก. นายข. ซึ่งเป็นบัญญัติอารมณ์

แต่ท่านหมายถึง อารมณ์ปรมัตถ์ ได้แก่

...อ่านต่อกดที่ลิงค์ชื่อเรื่องด้านบนค่ะ...

Users
4075
Articles
271
Articles View Hits
3590111