วัตถุประสงค์ของการทำเว็ปไซต์

อนาลยา
วิรังรอง_ทัพพะรังสี,wirangrong_dabbaransi,analaya.com,analaya,studio_d-analaya

ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็ปไซต์อนาลยาดอทคอมค่ะ

ขณะนี้เว็ปไซต์อนาลยากำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ

เว็ปไซต์ อนาลยา ดอทคอม ได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้ :
๑. เผยแผ่พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ปริยัติ)
๒. ส่งเสริมการปฏิบัติธรรมตามหลักพระพุทธศาสนา (ปฏิบัติ-ปฏิเวธ)
๓. ส่งเสริมการปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน

อุดมการณ์ :
๑. ปลูกฝัง และส่งเสริมการพัฒนา ศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม ในสังคม
๒. ไม่แสวงหากำไร หรือรายได้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว
๓. ไม่ข้องเกี่ยวกับกับกิจกรรมทางการเมืองใดๆ

กิจกรรม :
เผยแผ่พระธรรม และ ข่าวสารธรรมะต่างๆ ทางอินเทอร์เนต : http://www.analaya.com

อนาลยาดอทคอม เป็นเว็ปไซต์ที่สร้างขึ้น เพื่อน้อมนำกายใจของผู้จัดทำ และผู้เข้ามาเยี่ยมชมไปสู่ความสละ ความละ  ความคลายออกซึ่งกิเลสตัณหาด้วยการศึกษาคำสอนของพระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และการนำไปปฏิบัติ  เว็ปไซต์นี้จึงประมวลคำสอนทั้งแนวปริยัติ และแนวทางการปฏิบัติ

หากท่านเห็นว่าเว็ปไซต์นี้มีประโยชน์ ชอเชิญท่านร่วมใจกันเข้ามา ณ ที่นี้เพื่อการศึกษาและการปฏิบัติ ขัดเกลากิเลสในจิตตนให้เบาบางลงไปสู่ความไม่มีที่อาศัยของตัณหาตามกำลัง สติ ปัญญา และบุญบารมีที่ท่านได้สะสมมา

หมายเหตุ: 

อนุญาตให้ดาวน์โหลด คัดลอก  บทความ ข้อมูล ไฟล์เสียง รูปภาพ ในเว๊ปไซต์นี้เพื่อศึกษา และเพื่อเผยแผ่เป็นธรรมทานต่อๆ ไปได้ทั้งหมดโดยไม่จำกัด ยกเว้นการนำไปใช้เชิงพานิชย์  ทั้งนี้ได้พยายามระบุแหล่งที่มาของ บทความ ข้อมูล ไฟล์เสียง รูปภาพ ไว้เท่าที่ทราบ จึงขอความกรุณาอ้างอิงแหล่งที่มาตามที่ได้ระบุไว้ เพื่อเป็นเครดิตแก่เจ้าของข้อมูล และเพื่อประโยชน์ในการค้นคว้าต่อสำหรับท่านที่สนใจ

ธรรมะของครูอาจารย์ถือเป็นมรดกธรรม การแก้ไข แต่งเติมใดๆ จากต้นฉบับเดิม ควรขออนุญตท่านผู้แสดงธรรม บุคคล หน่วยงาน หรือองค์กรที่รับผิดชอบดูแล    

รูปภาพบางภาพในเว๊ปไซต์นี้ได้มาจาก อีเมลล์ หรือ เว๊ปไซต์ต่างๆ  โดยมิได้จดที่มาไว้  ด้วยแรกคิดว่าจะเก็บไว้ดูส่วนตัว มิได้คิดว่าจะนำมาเผยแผ่ต่อ จึงขออภัยต่อท่านเจ้าของภาพที่นำมาใช้โดยมิได้ขออนุญาต

เริ่มเขียนบทความนี้ เพื่อขยายข้อความที่เคย comment ไว้ใน Facebook.com เรื่อง "โลก" แต่เขียนไปเขียนมา จบลงด้วยเรื่องการปฏิบัติค่ะ

ก็นี่แหละ หัวใจของศาสนาพุทธคือการปฏิบัติ ไม่ว่าจะวนไปเวียนมาอย่างไร ก็มักมาลงเอยที่การปฏิบัตินะคะ

เมื่อพระพุทธองค์กล่าวถึง โลก ท่านหมายความถึง

๑. โอกาสโลก หมายถึง โลกประกอบด้วยธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ และอากาศ

๒. สังขารโลก แบ่งเป็นสังขารที่มีอุปาทานเข้าไปยึด เรียกว่าอุปาทินกสังขาร ที่เราปฏิบัติธรรมกันก็เพื่อขัดเกลากิเลสตัณหา มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น ให้เบาบางลงจนหมดสิ้นไป เรียกได้ว่าเป็นการปฏิบัติเพื่อลดละความยึดมั่นถือมั่นในสังขาร

สังขารอีกอย่างหนึ่งเรียกว่า อนุปาทินกสังขาร แปลว่า สังขารซึ่งไม่มีอุปาทานเข้าไปยึด หมายถึงผู้ที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ด้วยว่าพระอรหันต์มองโลกด้วยความว่างเปล่าไม่ยึดมั่นถือมั่นในความปรุงแต่ง ในสังขาร นี้หมายความว่าพระอรหันต์ท่านก็ยังมีสังขารคือร่างกายและจิตใจอยู่ แต่อุปาทาน คือความยึดมั่นถือมมั่นในสังขาร อันเป็นปัจจัยให้เกิดปฏิสนธิวิญญาณที่จะทำให้เวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏนั้นท่านไม่มี

๓. สัตว์โลก ในที่นี้ไม่ได้หมายความถึงนายก. นายข. ซึ่งเป็นบัญญัติอารมณ์

แต่ท่านหมายถึง อารมณ์ปรมัตถ์ ได้แก่

...อ่านต่อกดที่ลิงค์ชื่อเรื่องด้านบนค่ะ...

Users
3915
Articles
271
Articles View Hits
3477045