- Thank you received: 11
×
เรื่องเกี่ยวกับหลักธรรม คำสอนในทางพระพุทธศาสนา
ธรรมย่อมชนะอธรรม
30 Jun 2011 08:02 - 30 Jun 2011 08:08 #98
by yushin
powerlife.fix.gs
www.sookjai.com/index.php?topic=21787.msg42590#msg42590
หลายครั้งที่เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ ห่วงกังวลในหลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่อง
สถานการณ์บ้านเมืองก็ปลอบใจตัวเองว่าไม่ต้องห่วง{ธรรมย่อมชนะอธรรม}โดยที่ยัง
ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า ธรรมย่อมชนะอธรรมนั้นจะเป็นอย่างไร
เดิมเข้าใจว่า{ธรรม}ที่กล่าวถึง คือ กุศลธรรม หมายถึงคนที่ทำความดี คนดี และ
{อธรรม}คือ อกุศลธรรม หมายถึงผู้ร้าย คนไม่ดี ซึ่งถ้ามีการต่อสู้แข่งขันกันแล้ว คนดี
ต้องชนะ ชนะในที่นี้หมายถึงว่าได้รับลาภ ยศ สุข สรรเสริญ หรือชนะในการแข่งขันต่อสู้
รักษาชีวิตรอดปลอดภัย ได้รับรางวัลที่ต้องการ
ต่อมาเมื่อมีประสบการณ์ชีวิตมากขึ้นก็เห็นว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น คนไม่ดีทำทุจริตคด
โกงได้รับสิ่งดีๆมากมายกว่าคนที่ซื่อสัตย์สุจริตอย่างที่เห็นกันทั่วไปเมื่อมาได้ศึกษา
ธรรมมากขึ้น ก็เข้าใจว่า ความดีกับผลดีนั้นเป็นคนละส่วนกัน ความดีที่กระทำในปัจจุบัน
เป็นเหตุที่จะทำให้เกิดผลดีข้างหน้า แต่ผลดีที่ได้รับในปัจจุบันนั้นเป็นเหตุของความดีที่
ได้กระทำไว้แล้วในอดีต{คือที่ผ่านไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นชาติก่อนๆที่ยาวไกล ทำ
เมื่อกี้นี้ก็เป็นอดีตแล้ว}ซึ่งทุกคนในโลกนี้ก็ได้ทำทั้งกุศลและอกุศลในอดีตมาแล้วมาก
มายเมื่อได้เหตุปัจจัยที่เหมาะสม ผลของกุศลและอกุศลนั้นก็ให้ผลตามสมควรแก่เหตุที่
ได้กระทำไว้แล้วต่อมาเข้าใจมากขึ้น เมื่อได้ทราบว่าทุกอย่างเป็นธรรมก็รู้ว่าที่เข้าใจว่าเป็นคนดีคนไม่ดี
นั้นไม่ถูกเสียแล้วความจริงเป็นเรื่องกุศลธรรมและอกุศลธรรม ซึ่งต่างก็เป็นธรรม เป็นสิ่ง
ที่มีจริง เมื่อกุศลธรรมและอกุศลธรรมเกิดขึ้นก็เป็นเหตุให้ได้รับผล เป็นกุศลวิบากและ
อกุศลวิบากตามควรแก่เหตุนั้น ๆ ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร เช่น เมื่อมีปัญญา
ความเข้าใจถูกในสภาพธรรมที่เกิดปรากฏตามความเป็นจริงเป็นแสงสว่างดับอวิชชา
คือ ดับความมืดจากความไม่รู้ไม่เข้าใจและปัญญาซึ่งเป็นกุศล เป็นความดีย่อมชนะ
อวิชชา ซึ่งเป็นอกุศล ความไม่ดีได้
เมื่อวานนี้
>>>>วันเสาร์ที่ 25 มิุนายน 255454ได้ดูรายการ{บ้านธัมมะ}จากสถานี TNN 2 ก็ทำให้
รู้ว่าที่คิดว่าเข้าใจเรื่องนี้แล้วนั้นก็ยังไม่ถูกเมื่อได้ฟังท่านอาจารย์พูดถึงเรื่องธรรมย่อม
ชนะอธรรมว่า ธรรมจะชนะอธรรมได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูธรรมกับอธรรมว่า
เลี้ยงดูอย่างไหนดีกว่ากัน ถ้าเลี้ยงดูธรรมดีกว่าให้อาหารธรรมมากกว่า ธรรมก็จะมีกำลัง
ชนะอธรรมได้ แต่ถ้าไม่ได้ให้อาหารธรรมมากกว่า อธรรมที่ปกติมีกำลังมากกว่าเพราะมี
อาหารมากกว่านั้นก็จะชนะอธรรมเสมอ อย่างอยากมีปัญญา แต่ไม่ได้ฟังธรรมไม่ได้
ศึกษาไม่ได้พิจารณาปัญญาก็เกิดไม่ได้ แต่{อวิชชา}นั้นมีอยู่มากเป็นปกติแล้วยังมี
อาหารของอวิชชามากมายโดยไม่ต้องแสวงหาให้เหน็ดเหนื่อยเลย ไม่ว่าจะเป็นรูป เสียง
กลิ่น รส {โผฏฐัพพะ}ที่ปรากฏทำให้เกิดความติดข้อง ต้องการอยู่ตลอดเวลาดังนั้น
ปัญญาจะชนะ{อวิชชา}ไม่ได้ง่าย ๆ เลย
ดังนั้นที่เข้าใจว่า ธรรมย่อมชนะอธรรมนั้น ไม่ใช่อยู่เฉยๆ ก็จะชนะได้ ธรรมก็ต้องมีพี่
เลี้ยงที่คอยบำรุงรักษาให้เติบใหญ่มีกำลังมากกว่าอีกฝ่าย คือ อธรรมด้วย จึงจะชนะได้
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่ทำให้ได้ยินสิ่งที่ไม่เคยฟัง และทำให้เข้าใจในสิ่งที่
คิดว่าเข้าใจแล้วแต่จริงๆแล้วยังไม่เข้าใจเลย
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๒ ประการ
ย่อมอยู่เป็นทุกข์ มีความเดือดร้อน มีความคับแค้น
มีความเร่าร้อนในปัจจุบัน
เมื่อตายไปพึงหวังได้ทุคติ
ธรรม ๒ ประการเป็นไฉน คือ......................................
ความเป็นผู้ไม่คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย ๑
ความเป็นผู้ไม่รู้จักประมาณในโภชนะ ๑
ข้อมูลจาก.....มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาบ้านธัมมะ 136 หมู่ 5 ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ 50230
ธรรมย่อมชนะอธรรม was created by yushin
powerlife.fix.gs
www.sookjai.com/index.php?topic=21787.msg42590#msg42590
หลายครั้งที่เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ ห่วงกังวลในหลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่อง
สถานการณ์บ้านเมืองก็ปลอบใจตัวเองว่าไม่ต้องห่วง{ธรรมย่อมชนะอธรรม}โดยที่ยัง
ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า ธรรมย่อมชนะอธรรมนั้นจะเป็นอย่างไร
เดิมเข้าใจว่า{ธรรม}ที่กล่าวถึง คือ กุศลธรรม หมายถึงคนที่ทำความดี คนดี และ
{อธรรม}คือ อกุศลธรรม หมายถึงผู้ร้าย คนไม่ดี ซึ่งถ้ามีการต่อสู้แข่งขันกันแล้ว คนดี
ต้องชนะ ชนะในที่นี้หมายถึงว่าได้รับลาภ ยศ สุข สรรเสริญ หรือชนะในการแข่งขันต่อสู้
รักษาชีวิตรอดปลอดภัย ได้รับรางวัลที่ต้องการ
ต่อมาเมื่อมีประสบการณ์ชีวิตมากขึ้นก็เห็นว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น คนไม่ดีทำทุจริตคด
โกงได้รับสิ่งดีๆมากมายกว่าคนที่ซื่อสัตย์สุจริตอย่างที่เห็นกันทั่วไปเมื่อมาได้ศึกษา
ธรรมมากขึ้น ก็เข้าใจว่า ความดีกับผลดีนั้นเป็นคนละส่วนกัน ความดีที่กระทำในปัจจุบัน
เป็นเหตุที่จะทำให้เกิดผลดีข้างหน้า แต่ผลดีที่ได้รับในปัจจุบันนั้นเป็นเหตุของความดีที่
ได้กระทำไว้แล้วในอดีต{คือที่ผ่านไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นชาติก่อนๆที่ยาวไกล ทำ
เมื่อกี้นี้ก็เป็นอดีตแล้ว}ซึ่งทุกคนในโลกนี้ก็ได้ทำทั้งกุศลและอกุศลในอดีตมาแล้วมาก
มายเมื่อได้เหตุปัจจัยที่เหมาะสม ผลของกุศลและอกุศลนั้นก็ให้ผลตามสมควรแก่เหตุที่
ได้กระทำไว้แล้วต่อมาเข้าใจมากขึ้น เมื่อได้ทราบว่าทุกอย่างเป็นธรรมก็รู้ว่าที่เข้าใจว่าเป็นคนดีคนไม่ดี
นั้นไม่ถูกเสียแล้วความจริงเป็นเรื่องกุศลธรรมและอกุศลธรรม ซึ่งต่างก็เป็นธรรม เป็นสิ่ง
ที่มีจริง เมื่อกุศลธรรมและอกุศลธรรมเกิดขึ้นก็เป็นเหตุให้ได้รับผล เป็นกุศลวิบากและ
อกุศลวิบากตามควรแก่เหตุนั้น ๆ ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร เช่น เมื่อมีปัญญา
ความเข้าใจถูกในสภาพธรรมที่เกิดปรากฏตามความเป็นจริงเป็นแสงสว่างดับอวิชชา
คือ ดับความมืดจากความไม่รู้ไม่เข้าใจและปัญญาซึ่งเป็นกุศล เป็นความดีย่อมชนะ
อวิชชา ซึ่งเป็นอกุศล ความไม่ดีได้
เมื่อวานนี้
>>>>วันเสาร์ที่ 25 มิุนายน 255454ได้ดูรายการ{บ้านธัมมะ}จากสถานี TNN 2 ก็ทำให้
รู้ว่าที่คิดว่าเข้าใจเรื่องนี้แล้วนั้นก็ยังไม่ถูกเมื่อได้ฟังท่านอาจารย์พูดถึงเรื่องธรรมย่อม
ชนะอธรรมว่า ธรรมจะชนะอธรรมได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูธรรมกับอธรรมว่า
เลี้ยงดูอย่างไหนดีกว่ากัน ถ้าเลี้ยงดูธรรมดีกว่าให้อาหารธรรมมากกว่า ธรรมก็จะมีกำลัง
ชนะอธรรมได้ แต่ถ้าไม่ได้ให้อาหารธรรมมากกว่า อธรรมที่ปกติมีกำลังมากกว่าเพราะมี
อาหารมากกว่านั้นก็จะชนะอธรรมเสมอ อย่างอยากมีปัญญา แต่ไม่ได้ฟังธรรมไม่ได้
ศึกษาไม่ได้พิจารณาปัญญาก็เกิดไม่ได้ แต่{อวิชชา}นั้นมีอยู่มากเป็นปกติแล้วยังมี
อาหารของอวิชชามากมายโดยไม่ต้องแสวงหาให้เหน็ดเหนื่อยเลย ไม่ว่าจะเป็นรูป เสียง
กลิ่น รส {โผฏฐัพพะ}ที่ปรากฏทำให้เกิดความติดข้อง ต้องการอยู่ตลอดเวลาดังนั้น
ปัญญาจะชนะ{อวิชชา}ไม่ได้ง่าย ๆ เลย
ดังนั้นที่เข้าใจว่า ธรรมย่อมชนะอธรรมนั้น ไม่ใช่อยู่เฉยๆ ก็จะชนะได้ ธรรมก็ต้องมีพี่
เลี้ยงที่คอยบำรุงรักษาให้เติบใหญ่มีกำลังมากกว่าอีกฝ่าย คือ อธรรมด้วย จึงจะชนะได้
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่ทำให้ได้ยินสิ่งที่ไม่เคยฟัง และทำให้เข้าใจในสิ่งที่
คิดว่าเข้าใจแล้วแต่จริงๆแล้วยังไม่เข้าใจเลย
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๒ ประการ
ย่อมอยู่เป็นทุกข์ มีความเดือดร้อน มีความคับแค้น
มีความเร่าร้อนในปัจจุบัน
เมื่อตายไปพึงหวังได้ทุคติ
ธรรม ๒ ประการเป็นไฉน คือ......................................
ความเป็นผู้ไม่คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย ๑
ความเป็นผู้ไม่รู้จักประมาณในโภชนะ ๑
ข้อมูลจาก.....มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาบ้านธัมมะ 136 หมู่ 5 ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ 50230
Last edit: 30 Jun 2011 08:08 by yushin.
The following user(s) said Thank You: ปิ่นฟ้า
Please Log in or Create an account to join the conversation.
24 Jul 2011 05:43 #107
by ปิ่นฟ้า
Replied by ปิ่นฟ้า on topic ตอบกลับ: ธรรมย่อมชนะอธรรม
สาธุ อนุโมทนาในความดีที่ทุกๆท่านทำด้วยค่ะ ความจริงใจค่ะ สาธุ
Please Log in or Create an account to join the conversation.
Time to create page: 0.586 seconds