× เรื่องเกี่ยวกับหลักธรรม คำสอนในทางพระพุทธศาสนา

พระคุณแม่

14 Jun 2011 13:41 - 14 Jun 2011 13:58 #92 by yushin
ข้อเขียนของพระปิยะโสภณวัดพระราม 9 กาญจนาภิเศก

ชีวิตในสังคมที่วิกฤตเศรษฐกิจเราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวทางดำเนินชีวิตใหม่ พยายาม
ตั้งสติให้ดีต้องกล้าบอกตัวเองว่าเราไม่ได้สูญเสียอะไร ?เราไม่ได้ยากจนข้นแค้นเรายังไม่ถึงกับอด
อยาก เรายังมีทุกอย่างที่เป็นความจำเป็นพื้นฐานของชีวิต
เราอาจสูญเสียบางอย่างไป แต่ก็เป็นเพียงส่วนเกินที่เราได้มา เราอาจคิดว่าเราสูญเสียทุก
อย่างสูญสิ้นทรัพย์สมบัติ สิ้นเนื้อประดาตัว แต่ความจริงเราไม่ได้สูญเสียอะไรเราเพียงเสียส่วนที่เรา
มีเกินพอดีเท่านั้น
เราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวความคิดการยึดครองหันมามองสภาพอันแท้จริงที่เกิดขึ้นกับ
ชีวิตของเราว่าเหตุการณ์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เราคิดเลย เรารู้สึกเป็นทุกข์เศร้าใจและเสียใจเพราะ
การสูญเสีย แต่เราไม่คิดว่าเรายังมีอยู่มีกินมีทรัพย์สินบางส่วนที่ยังพอจะเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้เรา
มีมากกว่า หากเปรียบเทียบกับคนอีกจำนวนไม่น้อย ที่ด้อยโอกาสกว่าเราหลายร้อยเท่ายังมีอยู่
เขาไม่มีเครื่องประกันชีวิต ไม่มีเครื่องประกันว่าพรุ่งนี้จะไม่อดตายแปลว่าตายก็ตายฟรี โดยไม่มีที่จะ
ให้พึ่งพาอาศัยสำหรับเราถ้าจะต้องตายไปจริง ๆ ก็จะไม่มีใครปล่อยให้ตายเรายังมีสถานที่พอจะ
พึ่งพาอาศัยได้ในเมื่อยามยากของชีวิตมาถึง สังคมบ้านเรายังไม่เลวร้ายถึงขนาดนั้น
ความจริงมนุษย์เราเป็นทุกข์ เพราะรู้สึกว่าส่วนเกินหายไปต่างหาก ไม่ใช่เพราะไม่มีอะไรจะ
กินแต่เพราะไม่มีจะใช้ฟุ่มเฟือยได้อย่างเดิมต่างหาก เราต้องปรับเปลี่ยนแนวความคิดตรงนี้และหัน
มายอมรับความจริงที่เกิดขึ้นในสังคมให้ได้ หัดหวังแต่พอดี กินแต่พอดี เป็นอยู่ให้พอดี แล้วเราจะ

รู้สึกสบายใจขึ้น

ชีวิต ณ........วันนี้ แม้ว่าเราจะสูญสิ้นทรัพย์สินมากมายแต่เราก็ไม่ได้อดตาย เรามิได้ไร้ที่พักพิง
เรายังมีที่พึ่งพาอาศัย เพียงแต่อาจจะไม่สะดวกสบายเท่าที่ควรจะเป็นเช่นเมื่อก่อน ขอให้เรา
ปรับเปลี่ยนแนวความคิด แนวการดำเนินชีวิตใหม่
ยามเมื่อชีวิตขาดสตางค์เราต้องตั้งสติให้ได้ต้องหาสติให้เจอมิฉะนั้นเราจะเป็นทุกข์มาก
อาจทุกข์กว่าคนที่จนกว่าเราหลายร้อยเท่า
มีเรื่องอยากจะเล่าให้ฟังเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน
ครอบครัวของเศรษฐีพันล้านแต่ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนเงินมหาศาลต้องสูญ
หายไปในพริบตาเพราะพิษของเงินบาทลอยตัวสามีเสียชีวิตลงลูก 2 คนกำลังศึกษาอยู่ใน
ต่างประเทศ
เธอรู้สึกว้าวุ่นและเป็นทุกข์มากกระทั่งต้องเข้านอนโรงพยาบาล เธอคิดมาก กังวลว่าลูกจะมี
ปมด้อยลูกจะอยู่ในสังคมได้อย่างไรเมื่อขาดพ่อและขาดเงิน เพราะลำพังเธอเองนั้นเธอไม่หวั่นไหว
แต่ไปห่วงใยลูกรัก เธอคิดว่าชีวิตของเธอมีเพื่อลูก เงินทองที่หามาได้ก็หวังว่าจะเป็นทุนรอนให้ลูกใน
วันข้างหน้า
ของลูกที่จะอยู่ในสังคมวันข้างหน้าความอุดมสมบูรณ์ที่ครอบครัวของเธอเคยได้รับมาแต่ก่อน
นั้นอาจจะทำให้ลูกของเธอทำใจลำบาก เมื่อวันนี้ไม่เป็นเช่นวันก่อน


ลูกรักทั้งสองเมื่อทราบข่าวว่าแม่เข้าโรงพยาบาลและไม่ได้ สติ จึงบินมาจากต่างประเทศเพื่อ
เยี่ยมอาการของแม่ ทั้งสองตกใจมากนึกไม่ถึงว่าอาการของแม่จะหนักขนาดนี้ แม่เอาแต่ร้องไห้ แต่
การร้องไห้ของเธอเป็นการร้องไห้ที่ไม่มีเสียงร้องปรากฏจะเห็นก็เพียงแต่น้ำตาที่ไหลพรากพรั่งพรู
อาบแก้มทั้ง 2 ข้างอยู่ตลอดเวลา เธออยู่ในอาการเหม่อลอยและน่าสงสารมากพื่อน ๆ ทุกคนจึง
พยายามทะนุถนอมดวงใจของเธอเอาไว้ พยายามจับมือให้แน่นและพูดคุยให้กำลังใจ
เมื่อลูกมาถึงก็รีบเข้าไปหาแม่ทันที ลูกชายจับมือซ้ายของแม่แน่น ขณะที่ลูกสาวจับมือขวา
พร้อมกับกระซิบข้างหูเบา ๆ ว่า...............
ลูกมาหาแม่แล้ว ...........................................
เธอลืมตาขึ้นมองหน้าลูกด้วยความดีใจ
แม่เสียใจที่ต้องทำให้ลูกรักลำบาก? เธอกล่าวขณะตายังหลับ
แม่ทำดีที่สุดแล้ว แม่ให้ชีวิตแก่ลูกทั้งสอง และแม่ประคองเลี้ยงจนเติบโตลูกชายพูด
เงินทองที่เรามีอยู่ หมดไปแล้วนะลูก? เธอพูดพร้อมน้ำตา
เงินทองเป็นของนอกกาย ไม่ตายก็หาใหม่ได้ครับแม่? ลูกชายพูดปลอบโยน
ลูกไม่มีปมด้อยใช่ไหมที่จะต้องอยู่ในสังคมโดยไม่เท่าเทียมกับคนอื่นเช่นแต่ก่อน?

ลูกไม่เสียใจหรอกแม่ ลูกภูมิใจต่างหากลูกยืนยันหนักแน่น
แม่ทำใจให้ดี ลูกสาวพูด เราไม่ได้สูญสิ้นอะไรเพราะเรายังมีชีวิตอยู่ ทุกอย่างเป็นของ
ได้มาภายหลังมีชีวิตทั้งนั้นวันนี้เราไม่ได้สูญเสียอะไรไปเราเพียงแต่สูญเสียส่วนที่เป็นกำไรของชีวิต
ไปเท่านั้น เรายังมีชีวิตอยู่ ต้นทุนเรายังอยู่ นั่นคือชีวิตเรายังมีอยู่ไงละแม่
คำพูดของลูกสาวได้ให้สติแก่แม่ของเธอเป็นอย่างมาก เธอผงกศีรษะรับ และลุกขึ้นมานั่งบน
เตียงคนไข้ เธอโอบกอดลูกสาวลูกชายด้วยความรัก เธอไม่คิดว่าจะได้รับฟังถ้อยคำอันไพเราะหนัก
แน่นจากปากของลูกเช่นนี้ เธอดีใจที่วันนี้เลือดก้อนหนึ่งของเธอเติบใหญ่ด้วยสติปัญญาจริงๆ มิใช่
เพียงรูปร่างที่งดงามเท่านั้น ลูกสาวของเธอทั้งสวยทั้งเก่ง
ลูกรัก เธอพูดพร้อมกับกอดลูกทั้งสองซบไว้ที่หน้าอก ?ลูกสัญญากับแม่นะว่าลูกไม่มีปม
ด้อยไม่เสียใจไม่เป็นทุกข์อะไร กำลังใจของลูกเพียงพอที่จะเผชิญภัยเศรษฐกิจได้ถ้าลูกให้คำมั่น
สัญญากับแม่ได้แม่ก็จะสบายใจ
แม่คะลูกสาวพูด เราไม่ได้สูญเสียอะไร เราไม่ได้หิวกระหายสิ่งใด เราไม่ได้ขาดแคลนอะไรแม้แต่
น้อยเพียงสิ่งที่เรามีอยู่เวลานี้ ก็มากกว่าที่คนอื่นดิ้นรนแสวงหาอยู่แล้ว

ลูกรักของแม่เธอพูดต่อไป ชีวิตเป็นของไม่แน่นอน ลูกแม่ต้องอดทนและเข้มแข็งและเป็น
กำลังใจให้แม่ ถึงแม้ว่าเราจะสูญเสียพ่อ เสียทรัพย์ แต่แม่ก็ภูมิใจที่มีลูกรักอยู่เคียงข้างและ
ยิ่งกว่านั้นแม่มีกำลังใจ เมื่อรู้ว่าลูกรักของแม่ไม่มีปมด้อยใด ๆ ในชีวิต
แม่ครับ?ลูกชายพูดพร้อมกับโอบกอดแม่อยู่ข้างเตียง ?ผมจะเป็นลูกที่ดีของแม่จะตั้งใจ
ศึกษาเล่าเรียนให้จบและทำงานอย่างเข้มแข็ง เพื่อเป็นตัวแทนของพ่อ และบูชาความดีของแม่ ผม
จะเป็นกำลังให้แม่อยากให้แม่สบายใจอยากเห็นรอยยิ้มอันงดงามของแม่ แม่ให้ผมได้ใช่ไหมครับ
เธอค่อย ๆยิ้มให้กับลูก เป็นยิ้มที่งดงาม เธอโอบกอดลูกทั้งสองอย่างเปี่ยมล้นด้วยความรัก
เธอทราบดีว่าเวลานี้เป็นเวลาแห่งความสุข เป็นเวลาที่เธอปลื้มปีติมากที่สุด เธอภูมิใจในสติปัญญา
ของลูกรัก ที่ไม่สะทกสะท้านหวั่นไหวต่อเหตุการณ์ใดๆ แม้ว่าจะเป็นเรื่องสาหัสเพียงใดก็ตาม
จริง ๆ นะแม่
ลูกชายพูดขึ้นพร้อมกับจ้องมองไปที่ดวงหน้าของแม่แล้วพูดต่อ
รอยยิ้มของแม่สวยงาม รอยยิ้มของแม่อ่อนโยน รอยยิ้มของแม่สว่างไสว วันนี้แม่สวยและแม่
เปล่งปลั่งมาก
คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคได้เป็นประหนึ่งทิพยโอสถปลอบประโลมใจของเธอให้หายจาก
ความทุกข์โศกที่เกิดขึ้นเธอรู้สึกอบอุ่นและมั่นคงเธอมีกำลังใจขึ้นมากในยามนี้

แม่ไม่ต้องห่วงนะคะลูกสาวพูด.......................................
แม่ห่วงมากลูก ห่วงว่าลูกจะไม่เท่าเทียมใครอื่นเหมือนแต่ก่อน แม่พูด
เราไม่ได้อดโซนะแม่ เรามีบ้านอยู่ เรามีข้าวกินเรามีเครื่องอำนวยความสะดวกสบายหลาย
อย่าง เพียบพร้อมซึ่งคนอื่นจำนวนไม่น้อยหาไม่ได้ เวลานี้เรากำลังทุกข์ เพราะความคิดวิตกกังวล
เป็นทุกข์เพราะสิ่งที่เรามี มิใช่ทุกข์เพราะไม่มี แม่อย่าห่วงนะคะ แม่ต้องทำใจให้เข้มแข็ง วันนี้เป็นวัน
ของแม่ ลูกของแม่อยู่ที่นี่ อยู่กับแม่ อยู่เคียงข้างแม่ แม่ทำใจให้สบาย ลูกของแม่อยู่ที่นี่ คนที่แม่รัก
ที่สุดอยู่กับแม่แล้ว.......................................
ลูกคิดว่าลูกชายพูดแล้วหยุดคิด ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยนะแม่ที่เขาไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะ
หาอาหารที่ใดมาใส่ท้อง ยังมีคนอีกมากล้นที่ไม่รู้ว่า วันพรุ่งนี้จะหาที่ตรงไหนซุกกายนอนจะหา
หมอนนุ่ม ๆ ที่ไหนหนุน จะหาผ้าที่ไหนห่มให้อุ่นกาย แต่เรายังไม่เป็นเช่นนั้น
แม่ดีใจ ลูกรัก ที่วันนี้ลูกทำให้แม่เข้าใจ แม่ภูมิใจที่แม่เลี้ยงลูกแล้วเติบโต
ความสุขความทุกข์ของแม่อยู่กับลูก ๆ ทุกคนครับแม่ ลูกโตพอที่จะเรียนรู้และเข้าใจชีวิตได้แล้ว

ใช่............! ความสุข............ความทุกข์มีกับทุกคนแต่แม่ก็ไม่อยากให้เกิดกับลูกรักของแม่
เราห้ามไม่ได้หรอกแม่ทางที่ดีที่สุดก็คือต้องบอกความจริงให้ทราบ เพราะวันหนึ่งต้องรู้
ต้องเผชิญด้วยตัวเอง พวกผมรับได้กับทุกอย่างที่เกิดขึ้น แม่ต้องบอกให้รู้เพราะทุกข์ของแม่เป็นทุกข์
ของลูกทั้งสองคน แม่อย่าเก็บทุกข์ไว้ในใจคนเดียวนะครับ?
แม่เข้าใจ แม่ดีใจและแม่ขอบใจลูกรักของแม่มาก?
แล้วสักครู่เธอก็ลุกขึ้นก้าวจากเตียง แต่งตัว กระทั่งลูกแปลกใจว่าแม่กำลังจะไปไหน
แม่จะไปไหนครับ ลูกถาม
แม่จะกลับบ้าน แม่ไม่สบาย พักผ่อนเถอะครับ
แม่หายแล้ว เธอพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่งดงาม โรคร้ายของเธอหายเพราะทิพยโอสถของลูกเพียงไม่กี่คำ
นั่นเองแล้วเธอก็ขออนุญาตคุณหมอกลับบ้าน
แม่ว่าความรักมีค่ากว่ามหาสมบัติ ความรักหายากกว่าทรัพย์สินเงินทอง ความรักเป็นกำลังใจ
ที่ยิ่งใหญ่แม่เป็นทุกข์เพราะรัก แต่แม่ก็หายทุกข์เพราะรักนั่นเอง ขอให้เรารักกันให้มากนะลูกนะ
เพราะความรักเป็นทิพยโอสถ
เธอกล่าวพร้อมโอบกอดลูกทั้ง 2 ไว้แน่น แล้วเธอก็หายโศกเศร้าเป็นปลิดทิ้ง ณ.วินาทีนั้น
การปรับเปลี่ยนแนวคิดและปรับปรุงวิถีชีวิต เริ่มต้นจากคนในครอบครัว ยามที่เศรษฐกิจวิกฤต
จิตใจต้องมั่นคง ภัยอันร้ายแรงของชีวิต คือการขาดกำลังใจต่อกัน
ขอให้เราทุกคนให้กำลังใจกัน รักกัน ดูแลจิตใจซึ่งกันและกันให้มากแล้วเราจะรู้สึกว่าโลกนี้
ยังมีมุมน้อย ๆ ที่สงบร่มเย็นรอเราอยู่

ในอ้อมแขนอันอบอุ่น
ตักแม่นุ่มละมุนอุ่นชื่นจิต
แม่เล่านิทานกล่อมเพลงชีวิต
ชี้ทางถูกผิดให้ลูกรัก
รักของแม่คือสายใยของชีวิต
เติมพลังคราจิตอ่อนล้า
อบอุ่น ตราตรึงซึ้งอุราไม่ว่าครา
สุขหรือทุกข์ร้อน
ความรัก..............คือ กำลังใจความห่วงใยคือ
โอสถทิพย์แม่ คือผู้ยื่นหยิบ
กลั่นโอสถทิพย์ให้ลูกรัก
แม่.................คือพระอรหันต์ของลูก
แม่.................คือผู้ให้กำเนิด ศาสนา
เพราะ..............ศาสนาคือคำสอนเพื่อชีวิต
ผู้ให้กำเนิดชีวิตจึงเป็นผู้ให้กำเนิดศาสนาที่แท้จริง
แม่....................................คือต้นกำเนิดศาสนา


ที่มาของบทความ....................................www.sookjai.com/index.php?topic=567.0

Please Log in or Create an account to join the conversation.

Time to create page: 0.262 seconds
Users
3430
Articles
271
Articles View Hits
3179896